การ์ตูนจากค่ายพิกซาร์ ยังคงถูกสร้างอย่างต่อเนื่อง สามารถมอบความบันเทิงได้ทั้งครอบครัวไม่ว่าจะมีอายุมากน้อยขนาดไหน สำหรับเด็กน้อยสามารถซึมซับความรู้สึกและสนุกไปกับตัวละครที่น่าจดจำ ส่วนทางด้านผู้ใหญ่จะได้การตกผลึกถึงสาระของคุณค่าในชีวิตไปตามเนื้อเรื่อง ในภาคแรกของซีรีย์การ์ตูนเรื่องนี้ เริ่มตั้งแต่ปี 1995 นับได้ว่าผู้ที่ได้ติดตามนั้น เติบโตมาพร้อมๆกับ Toy Story เลยทีเดียว

เมื่อเรื่องราวภายในเรื่อง Toy Story 4 เป็นเนื้อเรื่องที่ต่อเนื่องมากจาก Toy Story 3 เรียกได้ว่าเรื่องราวครั้งนี้ผ่านมาเกือบ 10 ปี เพื่อระลึกถึงหนังเรื่องนี้อีกครั้ง โดยเนื้อเรื่องเริ่ม หลังจากการส่งมอบของเล่นของแอนดี้ต่อให้กับบอนนี่ ซึ่งเป็นรอยต่อเรื่องราวการเปลี่ยนผ่านการจากลาของเหล่าของเล่นต่างๆ ที่ โบ พี้ป สาวเลี้ยงแกะตุ๊กตาเซรามิกและเจ้าแกะ ที่ต้องโบกมือลากับพ้องเพื่อน ซึ่งในภาคที่ 3 ก็นับว่าเป็นเรื่องราวที่สะท้อนถึงห้วงอารมณ์การลาจากที่แสนจะโศกเศร้าได้เป็นอย่างดี กับ ความเสียใจในสิ่งที่เธอไม่อาจเป็นที่ต้องการของเจ้าของได้อีกต่อไป กับ คำกล่าวที่บอกเล่าว่า “ไม่เป็นไรหรอก เพราะฉันไม่ใช่ของเล่นของแอนดี้”

จุดเริ่มต้นจากรอยต่อการลาจากที่ โบ พี๊ป ดำรงไว้ซึ่งความทรงจำที่แสนดีกับตุ๊กตานายอำเภอ Woody เรื่องราวหลังจากนี้ Woody ยังคงมีความคิดถึงหน้าที่ในการที่จะต้องเป็นของเล่นที่ภักดีต่อเจ้าของ คราวนี้ภารกิจครั้งสำคัญของวูดดี้ คือ ช่วยเหลือฟอร์คกี้ที่เป็นสิ่งประดิษฐ์จากเจ้าของบอนนี่สร้างขึ้น การหนีของฟอร์คกี้กลายเป็นปัญหาที่ทำให้ การเดินทางของเหล่าของเล่นต้องร่วมมือกันอีกครั้ง ช่วงเวลาในการตามหา ฟอร์คกี้ ทำให้ วูดดี้ ได้พบกับ โบ พี๊ป อีกครั้งถึงแม้ว่าตอนนี้ เธอจะกลายเป็นของเล่นที่ไม่มีเจ้าของและพเนจรไปเรื่อย แต่สิ่งเหล่านี้ทำให้เธอสามารถเดินทางเพื่อออกสำรวจโลกกว้างได้ แม้ว่าวูดดี้จะชวนเธอเพื่อกลับไปอยู่กับบอนนี่ก็ตาม

ภารกิจในครั้งนี้นับว่าเป็นเรื่องราวที่ท้าทายเป็นอย่างมาก ในการเสี่ยงตายเข้าไปช่วยฟอร์คกี้ที่โดนแกบบี้จับเอาไว้ จากเหตุผิดพลาดที่กล่องเสียงของเธอชำรุดทำให้ไม่มีใครเลือกเธอไปเป็นเพื่อนเล่น และ ยังคงอยู่เพื่อนั่งดมฝุ่นในร้านขายของที่เก่าจนขึ้นหิ้ง

สิ่งที่น่าสนใจภายในเรื่อง Toy Story 4

การเปลี่ยนแปลงแนวความคิดกับการยืนหยัดในเรื่องของความเชื่อ สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งของหนัง จะสะท้อนเรื่องราวความเปลี่ยนแปลงต่างที่จะเข้ามาในชีวิตโดยสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับคนทุกช่วงเวลาของชีวิต แค่เพียงว่าจะช้าหรือเร็วเท่านั้น ด้วยการส่งผ่านสิ่งเหล่านั้นให้เห็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในมุมมองของตุ๊กตา อย่างเช่น โบ พี๊ป กับการผจญภัยในโลกกว้างที่ไม่เคยทำมาก่อนในฐานะตุ๊กตาพเนจร เนื่องจากเธอไม่อย่างถูกทอดทิ้งอีกต่อไปแล้ว หรือ ฟอร์คกี้ สิ่งประดิษฐ์จากบอนนี่ที่มีความเชื่อว่าตนเองนั้นเปรียบเสมือนขยะมากกว่าการที่จะเป็นของเล่น รวมไปถึง แก๊บบี้ที่ต้องการเพียงแค่เติมเต็มความร็สึกที่โหยหามาโดยตลอดชีวิต และ วูดดี้ ตัวละครที่มีแนวคิดในการให้คุณค่ากับสิ่งที่เชื่อมั่นและศรัทธา เพื่อก้าวข้ามผ่านการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่สำคัญของชีวิตกับความรู้สึก แม้จะมีความผูกพันกันมากขนาดไหนท้ายที่สุดแล้ว คนเราย่อมมีวิถีทางเดินชีวิตที่แตกต่างกันออกไปอยู่ดี คงจะเหลือไว้แค่เพียงความทรงจำดีๆที่งดงาม ให้ระลึกถึงตลอดไปตราบนานเท่านาน

หนังเรื่อง Toy Story 4 ไม่ได้ตัดสินถึงสิ่งที่บ่งบอกการกระทำใดๆ ว่าเป็นขาวหรือดำ แต่เป็นเส้นทางเดินที่ระหว่างทางเลือก ที่ได้ตัวละครต่างๆเหล่านั้นได้เลือกเดินไป นั่นแหละสิ่งที่หนังเรื่องนี้ได้สื่อถึงคุณค่าของการใช้ชีวิต เพราะไม่ว่าคุณจะมองมุมไหนชีวิตเมื่อเกิดมาแล้วล้วนสวยงาม ขึ้นอยู่กับทางเดินที่คุณเลือกมันเท่านั้นเอง